ทริปนี้ คือแบบว่า…พาแฟนมาเที่ยวโตเกียวครั้งแรก ก็เลยอยากจะพาไปแหวกให้ต่างจากคนอื่นๆสักหน่อย เพื่อไม่ให้ซ้ำกับภาพที่เราเห็นกันอยู่บ่อยๆตามสื่อ พาแฟนไปเที่ยวในโลเคชั่นลับๆที่หลายๆคนยังไม่ค่อยรู้จักมากนัก เพราะอยากให้จะเป็นทริปที่แฟนประทับใจโดยไม่ต้องไปเบียดเสียดกับคนมากมายตามสถานที่ยอดฮิตในโตเกียว ให้แฟนได้รู้ว่ามาเยือนโตเกียวไม่จำเป็นต้องเที่ยวที่เดิมๆเสมอไป รู้ๆกันอยู่ว่าเมืองนี้มีที่เที่ยวใหม่ๆเกิดขึ้นใหม่อยู่เสมอ มากี่รอบก็ไม่มีเบื่ออย่างแน่นอน
>> ส่วนใครอยากไปแบบเรา นี่เลยบินตรงดอนเมืองสู่โตเกียว
– ราคารวมเที่ยวเดียว เริ่มต้นเพียง 2,900 บาท
– ราคาบุคคลทั่วไป 2,940 บาท
สำรองที่นั่ง : 2 ก.ย. 2562 – 15 ก.ย. 2562
เดินทาง : 13 ก.ย. 2562 – 31 มี.ค. 2563
จองหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://air.asia/whNUA
ทริปนี้เราออกไปแหวกโตเกียวด้วยสายการบินไทยแอร์เอเซียเอ็กซ์ที่บินตรงจากดอนเมืองไปยังสนามบินนานาชาตินาริตะ บินกันตั้งแต่ตี5 กะว่าไปถึงที่นั้นจะได้มีเวลาเหลือในการไปตามหา Hidden Places กัน
หากบินก่อนวันที่ 12 Sep 2019 เราจะได้รับ Coupon ส่วนลดสินค้าต่างๆสำหรับไปใช้ในโตเกียว ซึ่งจะแจกให้กับผู้โดยสารทุกคนบนเครื่องครับ หรือใครไม่ได้ก็สามารถดาวน์โหลดจากลิ้งค์นี้ได้เลย https://air.asia/61xvk ใช้ได้ถึง 31 ธันวานี้ยาวๆไปเลย
ใช้เวลาบินจากดอนเมืองมาลงที่นาริตะ6ชั่วโมงและนั่งรถไฟจากสนามบินนาริตะเข้ามาที่โตเกียวอีกประมาณ1ชั่วโมงเราก็มาถึงที่พักที่เราจองไว้ในย่าน Asakusa-Bashi เป็นที่เรียบร้อยครับ นั่งพักให้หายเหนื่อยพร้อมชมวิวสวยๆจากห้องพักกันสักแป๊บ ก่อนจะออกไปแหวกโตเกียวกัน

วิวจากห้องพักของเราครับ สามารถมองเห็นตึก Sky Tree
Hidden แรกที่เรามาก็คือย่านฮาราจูกุครับ เคยได้ยินมาว่ามีห้างๆนึงที่เก๋มากๆ น่าไปถ่ายรูป พอมาเห็นแล้วคือสวยจริงๆครับ ทางขึ้นห้างถูกตกแต่งด้วยกระจกเต็มไปหมด ทำให้รูปที่ถ่ายออกมานั้นดูเก๋ ดูเท่ และดูแปลกตา ใครที่ชอบถ่ายรูปอัพลง IG แนะนำว่าที่นี่เจ๋งสุดๆครับ
ซึ่งห้างนี้มีชื่อว่า “ Tokyo Plaza Harajuku “ จุดถ่ายรูปจะเป็นบันไดด้านหน้าทางขึ้นห้างเลยครับ ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหนก็ดูอลังการสุดๆ ถ่ายรูปเสร็จก็สามารถไปเดินเล่นช้อปปิ้งกันต่อได้เลย แต่แนะนำให้มาช่วงค่ำๆนะครับ เพราะช่วงกลางวันคนจะรอถ่ายภาพเยอะมาก
พิกัด : https://goo.gl/maps/Qf9B4WcYjH9KTre56
ไม่ไกลจากย่านฮาราจูกุ เรานั่งรถไฟมาถ่ายรูปกับอีกหนึ่ง Hidden ที่ย่านซิบูย่ากันครับ หลายๆคนที่มาย่านนี้ก็มักจะไปถ่ายรูปกันที่ห้าแยกชิบูย่า แต่รู้หรือไม่ว่าย่านที่ผู้คนคับคั่งนั้นยังมีมุมเงียบๆให้ได้ถ่ายรูปอีกด้วยนะ ซึ่งจุดที่เรามาถ่ายภาพนั้นเรียกว่าห้าง “ Shibuya Stream “ โดยเป็นการเล่นไฟLED ตามขั้นบันไดทางขึ้นห้างและโรงแรม สีของไฟจะถูกเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆอยู่ตลอดเวลา ดูหรูหราแปลกใหม่และน่ามาถ่ายรูปไปอีกแบบ
ติดกับห้างจะเป็นคลองน้ำเล็กๆที่ถูกจัดตกแต่งให้ดูทันสมัยด้วยการจัดไฟโชว์หลากหลายสี เพิ่มความสวยงามไม่แพ้กับทางขึ้นของห้างเลยหละ
พิกัด : https://goo.gl/maps/gijKmA2SU4ajdgRq5
เช้าวันที่สอง เรานั่งรถไฟออกมาค่อนข้างไกลนิดนึงครับ มาที่ย่าน Kawasaki เพราะรู้อีกแล้วมาว่าย่านนี้มีหนึ่ง Hidden เด็ดๆซ่อนอยู่ เมื่อมาถึงตามพิกัดที่เราได้ปักหมุดไว้ ก็เจอเจอกับตึกที่มีชื่อว่า “ Anata no Warehouse “ ที่ดูน่ากลัวและหลอนตั้งแต่ยังไม่เข้าไปเลยครับ

ดูน่ากลัวตั้งแต่หน้าประตูกันเลยทีเดียว แฟนผมถึงขั้นไม่กล้าที่จะเข้าไปเลยหละ อิอิ

ประตูทางเข้าเป็นแบบเปิดเองอัตโนมัติ หากตั้งตัวไม่ดีอาจจะมีตกใจกับเสียงฟู่ของประตูได้ ฮ่าๆ
โครงสร้างของตึกที่นี่ รวมถึงการตกแต่งภายในทั้งหมดนั้น เป็นการจำลองสร้างขึ้นมาทั้งหมดครับ เพื่อให้ดูคล้ายกับย่านเกาลูนที่ฮ่องกงที่เต็มไปด้วยอบายมุขและยาเสพติด ทำให้ภายในตึกที่เราเข้ามานั้นดูน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูกเลยหละ แต่ความน่ากลัวนั้นยังถูกแฝงด้วยความบันเทิงต่างๆมากมาย ทำให้ที่นี่ดูไม่น่ากลัวอย่างที่คิดครับ

ทางขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นต่างๆภายในตึก ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะขึ้นดีหรือไม่ขึ้นดี ฮ่าๆ แอบกลัวนิดๆ
อยากที่บอกครับว่าความน่ากลัวนั้นถูกแฝงไปด้วยความบันเทิง ทำให้บรรยากาศภายในตึกดูผ่อนคลายขึ้นมาหน่อย ดูเป็นคนละอารมณ์กับโซนเมื่อกี้เลย อิอิ
มุมนี้เป็นมุมที่แฟนผมชอบสุดๆครับ เป็นการจำลองบ่อน้ำเทพมังกรก่อนที่เราจะเดินออกจากตึกนี้ สำหรับใครที่ต้องการมาเที่ยว Hidden นี้ สามารถนั่งรถไฟ JR มาลงที่สถานี Kawasaki แล้วเดินต่ออีกประมาณ15นาทีครับ
พิกัด : https://goo.gl/maps/MsnBjMpLq5jaYWg46
รานั่งรถไฟย้อนกลับมาที่ย่านฮาราจูกุกันอีกครั้ง เพื่อมาถ่ายรูปกับที่นี่! เพราะเมื่อวานมาไม่ทันครับ (เปิดให้เข้าถ่ายรูป 11.00-20.00น. เท่านั้น ) ที่นี่เรียกว่า “ Galaxy Harajuku “ เป็นอีกหนึ่ง Hidden ที่น่ามาถ่ายรูปมาก ซึ่งจะอยู่บนตึก Samsung ครับ ซึ่งทีเด็ดจะอยู่บริเวณชั้น4ของตึก คือ ห้องที่แสดงจอทีวีกว่า100จอมาไว้ในห้องกระจก ถ่ายรูปออกมาแล้วเก๋มากๆ เป็นอีกหนึ่งพิกัดที่น่ามาแชะภาพลง IG ครับ
พิกัด : https://goo.gl/maps/K1z9U5FLGPUtBT1J6
ถ่ายรูปเสร็จก็สามารถเดินเที่ยวในย่านฮาราจูกุได้ต่อครับ ช่วงกลางคืนย่านนี้จะดูคึกคักมากๆ แอบแว๊บไปเห็นร้านชาไข่มุกอยู่ร้านนึงที่คนกำลังต่อแถวซื้อ กลิ่นหอมๆของไข่มุกลอยมาเตะจมูก เลยอดใจไม่ได้ที่ขอลองสักแก้วครับ ^^
Hidden ต่อมาก็คือที่นี่ครับ “ Ichigaya Fishing Center “ เป็นสถานที่ตกปลาใจกลางเมืองโตเกียวย่านธุรกิจ หลายคนอาจจะงงว่าใจกลางเมืองจะมีที่ตกปลาได้ด้วยเหรอ ตอบเลยว่ามีครับ ไม่เชื่อตามเรามา..
และนี่คือการตกปลาใจกลางกรุงโตเกียวจริงๆครับ ดูบรรยากาศรอบๆสิ มีตึกสูงอยู่เต็มไปหมด ที่นี่เป็น Fishing Center ที่ตั้งอยู่ระหว่างแม้น้ำ Kanda แถมอยู่ใกล้สถานีรถไฟ Ichigaya Station อีกด้วย คือแบบว่า…ลงจากรถไฟก็สามารถเดินมาได้เลย ซึ่งวันนี้คนค่อนข้างจะน้อยครับ เพราะมีฝนตกลงมาแทบจะทั้งวัน เราเลยถือโอกาสช่วงฝนหยุดแป๊บนึงมาฝึกทักษะกันสักหน่อย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนที่เหมาะกับการมานั่งชิลๆได้เหมือนกันนะ
ปลาที่นี่หากเราตกได้แล้วไม่สามารถนำกลับบ้านได้นะครับ ให้ปล่อยลงในบ่อเหมือนเดิม เพราะที่นี่เป็นเหมือนศูนย์การเรียนรู้ประสบการณ์ในการตกปลามากกว่าจะเป็นบ่อตกปลาเพื่อนำไปทาน หากใครมีเวลาเที่ยวในโตเกียวแบบเหลือๆ พวกเราแนะนำให้มาลองฝีมือกันสักตั้งนะครับ
สำหรับที่นี่จะเปิดบริการตั้งแต่ 9.00-18.30 น. ครับ ช่วงที่คนจะมาตกปลาเยอะที่สุดจะเป็นช่วงเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดเทศกาล
พิกัด : https://goo.gl/maps/KtiC4g57zMFcSoAv6
สถานที่ Hidden สุดท้ายของวันนี้เราเลือกมากันที่ Tokyo Tower ซึ่งจะมาตามหามุมแชะภาพลับๆที่หลายคนกำลังตามหา ซึ่งเราเองก็ตามหาเช่นเดียวกัน
มุมที่เราพูดถึงก็คือมุมนี้นี่เองครับ เป็นมุมที่เปลี่ยนคำว่า Tokyo Tower หอคอยในตำนานแบบเดิมๆได้ดีเลยทีเดียว ซึ่งมุมนี้จะอยู่บริเวณทางลงที่จอดรถภายในสวน Shiba Park ครับ เดินขึ้นเนินก่อนจะถึง Tokyo Tower สังเกตุซ้ายมือจะเป็นร้านอาหาร จุดนี้จะอยู่ตรงข้ามกับร้านอาหารเลยครับ
พิกัดตามนี้เลยครับ หาเจอแน่นอน :https://goo.gl/maps/PGW8ZWrd5DTardDG6

นี่คือมุมลับที่เราพูดถึงครับ อิอิ
วันที่สาม พาแฟนมาอีกหนึ่งสถานที่ลับๆย่านคะงุระซะกะที่ชื่อว่า “ ลา คากุ “ (la kagu) บรรยากาศของโกดังย้อนยุคแนวมินิมอลที่เคยเป็นสำนักพิมมาก่อน ซึ่งภายในมีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ สินค้าแฟชั่น และแหล่งความรู้มากมายเกี่ยวกับอาหารและเสื้อผ้า แค่เห็นภายนอกก็สวยจนต้องแชะภาพกันเลยหละ
ที่ลับๆแห่งนี้อยู่ติดกับสถานีรถไฟ Karurazaka Station เลยครับ เดินออกมาก็จะเจอกับโกดังสีเทาเข้มที่เป็นเอกลักษณ์มาก เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปที่เราอยากจะแนะนำเลยครับ ได้รูปสวยๆแล้วยังสามารถเข้าไปเดินซ็อปปิ้งได้อีกด้วย
โกดังแห่งนี้ได้รับการรีโนเวทใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิมโดยคุณ Kengo Kuma สถาปนิกชื่อดังระดับโลก จึงไม่แปลกเลยว่าทำไมที่นี่ถึงได้สวยและน่าถ่ายรูปแบบนี้
พิกัด : https://goo.gl/maps/GLdkziBaW8ddtwAu9
เวลาเปิด : 11.00-20.30 น.
ได้กาแฟลงท้อง ร่างกายเฟรชขึ้นมาทันที มีแรงนั่งรถไฟมาต่อกันที่ Tokyo University เพื่อมาหามุมลับๆที่สุดท้ายกัน เพื่อนๆคงอยากจะถามว่าในมหาวิทยาลัยมีที่เที่ยวด้วยเหรอ? ตอบเลยว่าไม่มีครับ แต่เราไม่ได้มาเที่ยวนร้า เราแค่มาหามุมถ่ายรูปเท่านั้นเอง เพราะที่มหาลัยนี้ขึ้นชื่อด้วยถาปัตยกรรมแบบตะวันตกสวยๆอยู่มากมายและใบไม้เปลี่ยนสี (แต่ช่วงนี้ยังไม่เปลี่ยน) จึงกลายเป็นแรงดึงดูดที่ทำให้เราอยากจะมาแชะภาพกันครับ
หลายคนคงคุ้นเคยกับภาพใบไม้สีเหลือง จริงๆแล้วภาพเหล่านั้นส่วนใหญ่จะเป็นมหาวิทยาลัยที่นี่ครับ ซึ่งเรียกว่าใบแปะก๊วย แต่ช่วงที่เรามายังไม่ถึงฤดูของการเปลี่ยนสี เลยได้เดินชมและถ่ายรูปเฉพาะสถาปัตยกรรมกันไปก่อน
พิกัด : https://goo.gl/maps/1h8qnZvjDySnDHiS6
เป็นทริปโตเกียวที่ทำให้แฟนรู้สึกประทับใจมากๆ ได้พาไปเที่ยวในสถานที่ลับๆที่คนมักจะไม่ค่อยรู้จักกัน เป็นการพาเที่ยวแหวกโตเกียวที่สนุกสุดๆแบบไม่ทำให้เบื่อ ใครต้องการหาสถานที่เที่ยวใหม่ๆแบบไม่ซ้ำใคร แนะนำตามรอยพวกเราได้เลยครับ
จบทริป เดินทางมายังสนามบินนาริตะเพื่อเดินทางกลับ ซึ่งเราเลือกสายการบินไทยแอร์เอเซียเอ็กซ์เหมือนเช่นเคยครับ เช็คอิน โหลดกระเป๋าเสร็จ ขึ้นเครื่องนอนหลับยาวๆอีก6ชั่วโมง แล้วเจอกันใหม่นะโตเกียว ^^