ใครว่าหน้าฝนมาเที่ยวเกาะไม่ได้ เราขอเถียง! โดยเฉพาะการมาพักรีสอร์ท Pool Villa Suite ริมหาดส่วนตัวแบบนี้ที่ ” Sea View Koh Chang “ อีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนที่แท้ทรู เพราะเป็นรีสอร์ทที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ด้านหลังเป็นภูเขา ส่วนด้านหน้าเป็นทะเล พักที่เดียวได้ทั้ง2อารมณ์
เรามาเที่ยวเกาะช้างก็บ่อย แต่ไม่เคยรู้เลยว่าแถวๆหาดไก่แบ้ จะมีรีสอร์ทสวยๆที่บรรยากาศดีแบบนี้ซ่อนอยู่ มีความเป็นธรรมชาติสูง แถมมีความเงียบสงบอีกต่างหาก ยิ่งการมาพักผ่อนของเราครั้งนี้เลือกพักห้องแบบ Pool Villa Suite ที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัวพร้อมกับวิวงามๆ ยิ่งตอกย้ำให้เรารู้สึกถึงการพักผ่อนได้อย่างแท้จริงเลยครับ
ซึ่งภายในรีสอร์ทมีห้องพักให้เลือกหลายแบบ พร้อมกับกิจกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน เช่น พายเรือคายัค นวดแผนไทย สปา สระว่ายน้ำริมหาด ห้องอาหาร ฯลฯ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งของการพักผ่อนที่คุ้มค่ากับการขับรถมาเที่ยวจริงๆ
ตามไปดูกันว่า Sea View Koh Chang จะชิลอย่างที่พวกเราเกลิ่นไว้กันรึเปล่านร้า>>
:: วันแรก ::
อย่างที่บอกครับว่าภายในรีสอร์ทมีความเป็นธรรมชาติค่อนข้างสูงมาก มีต้นไม้น้อยใหญ่อยู่เต็มไปหมด บรรยากาศแบบนี้เห็นต้นไม้เขียวๆแล้วรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งพวกเราเองก็มีความชอบอะไรที่เป็น Nature กันอยู่แล้วด้วย ยิ่งได้มาเจอบรรยากาศแบบนี้ หืม…คือดีย์อ่ะ
มาดูห้องพักของเรากันบ้างครับ ห้องพักของเราจะเป็นแบบ Pool Villa Suite ที่ค่อนข้างจะ Private บ้านพักทุกหลังจะถูกกั้นให้มีความเป็นส่วนตัว ซึ่งในโซนนี้จะสามารถเข้ามาได้เฉพาะแขกที่เข้าพัก Pool Villa Suite เท่านั้นนะ คนอื่นๆไม่สามารถเข้ามาได้จร้าาา
ส่วนภายในห้องพักคือกว้างมาก แบ่งสัดส่วนการใช้สอยอย่างชัดเจนครับ ห้องนอนเมื่อเปิดม่านออกกว้างๆ เราก็จะสามารถมองเห็นวิวทะเลที่อยู่ด้านหน้าได้เลย
มีห้องนั่งเล่นที่แบบว่า..อารมณ์เหมือนพักอยู่ในบ้านของตัวเองเลยหละ แถมมีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน อ้อ..ลืมบอกว่าห้องน้ำที่นี่คือเริ่ดมาก กว้างกว่าห้องนอนที่บ้านของเราซะอีก อีกอย่างไม่มีม่านนะจ๊ะ เป็นกระจกล้วนๆ แต่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมองเห็น เพราะความส่วนตัวสูงมากอย่างที่บอกครับ อิอิ
อีกหนึ่งมุมที่เราชอบมากๆก็คือ ทางเดินขึ้น-ลง ระหว่างห้องพักกับดาดฟ้า ปกติแล้วถ้าเป็นโรงแรมทั่วๆไปเราจะคุ้นกับการเดินขึ้นไปยังห้องพักใช่มั้ยครับ แต่ห้องพักแบบ Pool Villa Suite จะต้องเดินลงไปยังห้องพักเท่านั้น ซึ่งดาดฟ้าจะอยู่ในระดับเดียวกันกับทางเดินครับ เป็นการดีไซน์บ้านพักที่ลงตัวมากๆ สัมผัสแรกที่ก้าวเข้ามาในห้องพักคือชอบสุดๆ
ภายในห้องน้ำมีอ่างแช่ออนเซ็นในแบบฉบับของญี่ปุ่นอยู่ด้วยนะ ถึงจะเป็นอ่างเล็กๆแต่ก็รู้สึกสบายตัว ^^
ดินเนอร์วันแรกของเราทานกันที่ห้องอาหาร Sea View 1989 ครับ ขึ้นมาสูงหน่อย แต่วิวคืองามมาก ลมพัดเย็นสบาย จากจุดนี้เราสามารถมองเห็นเกาะมันในอีกด้วย แอบมีความโรแมนติกนิดๆภายใต้แสงเทียนอันน้อยๆ ^^

น่าตาดินเนอร์ของเราก็จะประมาณนี้ครับ มาเที่ยวทะเลทั้งที เมนูที่สั่งก็ต้องเป็นเมนูแบบทะเลๆให้เข้ากับบรรยากาศสักหน่อย
ช่วงเวลา 17.30-18.30 น. จะมี Sunset Shake ไว้คอยบริการด้วยนะ เป็นเครื่องดื่มแบบค็อกเทลที่มีให้เลือกหลายหลายแบบ เสิร์ฟมาพร้อมกับสแน็ก4อย่าง คือเรียกน้ำย่อยได้ดีมากๆ
นั่งดินเนอร์ไปพร้อมกับชมวิวสวยๆตรงหน้า ซึ่งเกาะมันในเป็นเกาะเล็กๆที่เราสามารถมองเห็นได้จากรีสอร์ท และสำหรับใครที่ต้องการข้ามไปที่เกาะนี้พร้อมกับไปนั่งปิกนิคชิลๆ สามารถติดต่อที่รีสอร์ทได้เลย พายเรือคายัคไปแป๊บเดียวก็ถึง แต่วันที่เราเข้าพักเป็นช่วงที่คลื่นลมแรง เราเลยอดที่จะได้ไปสัมผัสเกาะแห่งนี้
:: วันที่สอง ::
เช้าวันใหม่ อากาศดี๊ดี เดินเล่นชิลๆตามทางเดินธรรมชาติก่อนจะไป Brekfast ซึ่งอาหารเช้าจะเริ่มตั้งแต่ 7โมงเช้า จนถึง สิบโมง เรียกได่ว่าตื่นสายแค่ไหนก็ไปทัน ฮ่าๆ
การเดินทางไปทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร Sea View 1989 มีให้เลือกหลายแบบครับ เพราะห้องอาหารอยู่ค่อนข้างสูงมาก ต้องอาศัยการนั่งรถขึ้นไปเท่านั้น แต่อีกแบบที่เราสนใจก็คือการนั่ง Cabel Car เพื่อสร้างความตื่นเต้นกันสักหน่อย ใช้เวลาประมาณ 10นาทีก็มาถึงห้องอาหารเช้าแล้วครับ ในส่วนของอาหารเช้านั้นจะทานกันที่ห้องอาหาร Sea View 1989 เหมือนเดิม
สำหรับแขกที่พักในห้อง Pool Villa Suite จะมีที่นั่งเฉพาะแบบส่วนตัวครับ สามารถสั่งกาแฟสด ชา และเครื่องดื่มอื่นๆได้แบบเต็มที่

มุมนั่งชิลที่อยู่ใกล้ๆกับห้องอาหาร Sea View 1989 นั่งย่อยกันสักแป๊บก่อนจะไปทำกิจกรรมอื่นๆกันต่อ
อิ่มท้อง นั่งย่อยเสร็จ กลับมาที่ห้องกับหนึ่งสิ่งที่ต้องทำก็คือ การว่ายน้ำในสระส่วนตัว พร้อมกับแพลนกันไว้ว่าหลังจากนี้เราจะออกไปเที่ยวรอบๆเกาะช้างกันต่อ แต่..ก่อนจะออกไปเที่ยว เราขอแช่น้ำเย็นๆให้คุ้มค่ากับการพักห้อง Pool Villa Suite กันสักหน่อย ^^
นอกจากจะมีสระว่ายน้ำส่วนตัวแล้ว ยังมีอ่างจากุชชี่ให้ได้ตีฟองนั่งแช่อีกด้วยนะ คือแบบว่า..ครบรสจริงๆ
ได้เวลาออกมาเที่ยวนอกรีสอร์ทกันบ้างครับ ที่แรกที่เราแวะก็คือ “ชุมชนบางเบ้า” ครับ ที่นี่จะเป็นทั้งท่าเรือประมง ท่าเรือท่องเที่ยว และเป็นชุมชนที่ขายของฝากน่ารักๆให้กับนักท่องเที่ยวอยู่เต็มไปหมด วันนี้อากาศดีเราเลยเดินกันแบบชิลๆ หากใครได้แวะมาเที่ยวที่นี่ก็อย่าลืมมาถ่ายภาพกับประภาคารสีขาวที่ตั้งอยู่ปลายสุดของหมู่บ้านด้วยหละ
เสร็จจากบางเบ้า ขับรถต่ออีกชั่วโมงนิดๆเพื่อมายังอีกฝั่งของเกาะช้าง ซึ่งเป็นฝั่งที่ไม่ค่อยมีคนนิยมมาเที่ยวมากนัก (เกาะช้างเลี้ยวซ้าย) เรามานั่งเรือมาดของชาวบ้านเที่ยวชมสองฝั่งของป่าชายเลนที่ “ชุมชนสลักคอก” กันครับ เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ของการมาเที่ยวเกาะช้างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ใช้เวลาในการล่องเรือจากชุมชนไปยังปากอ่าว ไป-กลับ ประมาณ 45นาที ส่วนค่าบริการคนละ 200 บาท ครับ เปิดให้บริการตั้งแต่ 8.00น. – เรือเที่ยวสุดท้าย 16.00น.
ไม่ไกลจากชุมชนสลักคอกเรามาเที่ยวกันต่อที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน (สะพานแดง) ใน “ชุมชนสลักเพชร” เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่ใครๆก็ต่างแวะเวียนมาเดินชิลพร้อมกับแชะภาพกับสะพานไม้สีแดงทอดยาวกว่า 700เมตร ยิ่งบรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนแบบนี้ คือเดินได้แบบสบายๆไม่ต้องกลัวร้อนกันเลยหละ
กลับมาที่รีสอร์ทพร้อมรอเวลาดินเนอร์ของเรา ^^
เห็นภาพนี้แล้วไม่ต้องอิจฉานะ อิอิ ดินเนอร์ของเราขอแบบว่าเริศๆหน่อยละกันครับ นั่งทานกันริมหาดไปเลย พร้อมชมวิวทะเลแบบ180องศา แต่..ซุ้มดินเนอร์นี้ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้นนะ ส่วนเมนูที่เราสั่งสำหรับ Romantic Dinner ริมหาด วันนี้ คือ อร่อยมากกก
:: วันที่สามก่อนเดินทางกลับ ::
อีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจของรีสอร์ทก็คือการเพ้นท์ผ้าบาติก เป็นกิจกรรมเพลินๆในช่วงเวลาของการพักผ่อนได้ดีเลยทีเดียวครับ เพ้นท์เสร็จก็นำกลับบ้านได้เลย ใครสนใจสามารถติดต่อได้ที่โซน Kids Club ได้เลย
ก่อนเดินทางกลับ ขอแวะนวดกันสักแป๊บที่ Rainforest Spa ที่อยู่ภายในรีสอร์ท ซึ่งการนวดของเราก็จะเป็นแบบนวดแผนไทยที่ใช้เวลาเพีงแค่30นาทีก็เสร็จ
เข้ามาภายในห้องสปาเราก็จะเจอกับผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพมากมายให้ได้เลือกซื้อกลับ สายสปาหรือสายที่ชอบนวดต้องชอบแน่ๆ กลิ่นของสมุนไพรอบอวนไปทั่วห้อง เย้ายวนให้อยากจะซื้อกลับบ้านจริงๆ

รู้สึกผ่อนคลายมาก ^^
หลังจากนวดเสร็จ ได้ยินมาว่าที่สปามีการสอนนวดมือแบบกดจุดให้ฟรีอีกด้วย ขอลองเลยละกันไม่รอช้า ใช้เวลาในการเรียนแค่ไม่ถึง15นาทีก็สามารถนำกลับไปใช้นวดเองได้เลยครับ
ใครกำลังมองหาที่พักบนเกาะช้างที่แฝงตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่มาพร้อมกับชายหาดส่วนตัว แนะนำให้ลองมาพักที่ ซีวิว เกาะช้าง กันดูนะ มาครั้งแรกก็อยากจะกลับมาอีกเลยหละ
————————
ติดต่อที่พักเพิ่มเติม :
website : www.seaviewkohchang.com
Tel : 039 552 888
Facebook : Sea View Koh Chang